hello
omega
minhyun
x jaehwan
ของที่วางนิ่งอย่างสงบอยู่บนโต๊ะคือปลอกคอผ้าสีดำปักดิ้นสีทองประดับให้ดูสวยงาม
ข้างๆ ไม่ห่างจากปลอกคอนั่นเท่าไหร่ คือซองยาที่คุ้นเคยมาตลอดเกือบทั้งชีวิต
ถึงใครๆจะบอกว่ามันโชคเกอร์ที่เขาใส่ไว้เป็นแฟชั่น
แต่ในสายตาคิมแจฮวาน
มองอย่างไรมันก็ไม่ต่างจากปลอกคอหนังสีน้ำตาลในกระเป๋าเขาซักนิด
คิมแจฮวานถอนหายใจ
มือเรียวหยิบโชคเกอร์อันนั้นขึ้นมาทาบลงบนลำคอขาวของตนเอง
อ้อมปลายไปด้านหลังเพื่อสวมมัน นึกอยากจะมีตาหลัง จะได้สวมเจ้าสร้อยบ้าๆนี่ได้อย่างสะดวก
หรือไม่ก็อยากให้มันมีที่รัดด้านหน้าเหมือนกับปลอกคอของเขา แต่จะให้ดี
แจฮวานก็ไม่ได้อยากใส่มันเลย
"อ้ะ.."
ร่างเล็กอุทานเบาๆตอนที่มือเย็นเฉียบของใครบางคนแตะลงบนหลังมือของเขา
ชิงเอาโชคเกอร์สีดำไปจากมือ ก่อนจัดการสวมให้เขาอย่างรวดเร็ว
ตาเรียวมองฮวังมินฮยอนผ่านกระจกแต่งตัวบานใหญ่
พี่ชายร่วมวง ภาพลักษณ์ฝ่าบาทแสนใจดีกำลังยืนทำหน้าบูดอยู่ด้านหลังเขา อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจ
ก่อนเงยหน้าสบตากับแจฮวานในกระจก
"กินยาแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
มินฮยอนถอนหายใจอีกแล้ว
ไม่รู้ว่าจะถอนหายใจทำไมนักหนา มือใหญ่ที่วางอยู่บนบ่าเล็กนั่นออกแรงบีบเบาๆ
แจฮวานรับรู้ได้ถึงความกังวลของอัลฟ่าด้านหลัง เขาหัวเราะออกมาเบาๆ
ตอนที่มินฮยอนย่อตัวนั่งลงกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ฝังใบหน้าลงกับหลังคอเขา
พร้อมส่ายหน้าไปมาอย่างออดอ้อน
หมาป่าจ่าฝูงอะไร่ล่ะ ลูกหมาชัดๆ
“ไม่อยากให้เราใส่เลย”
“ไม่ใส่เดี๋ยวก็เป็นเรื่องสิครับ
งานวันนี้ยิ่งคนเยอะอยู่ด้วย”
ประโยคที่พูดออกมา
พาลทำให้แจฮวานนึกไปถึงช่วงที่แข่ง produce101 ช่วงที่กำลังเตรียมแข่งรอบที่สองอยู่นั้น
ตอนที่กำลังซ้อมเล่นกีตาร์อยู่ในห้องกับพี่มินฮยอนสองคน เขาผิดเองที่ประมาทไป
กะวันฮีทของตัวเองผิดพลาด ไม่บอกคนอื่นในทีมโซนากีว่าเขาเป็นโอเมก้า แถมยังคอเปลือยเปล่าอยู่กับอัลฟ่าสองตนสองในห้องซ้อมแคบๆอีก
ความเจ็บปวดจากคมเขี้ยวอัลฟ่าหนุ่ม
แจฮวานยังจำได้
นับว่ายังโชคดี
ที่คืนนั้นเป็นฮวังมินฮยอน
ถึงจะกินยาเข้าไปแล้ว
แต่กลิ่นหอมของโอเมก้าก็ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว
มันยังคงเรียกความสนใจจากอัลฟ่าคนอื่นที่เดินผ่านไปมาได้อยู่ดี
แจฮวานเห็นมินฮยอนหันไปมองคังแดเนียล
อัลฟ่าอีกคนในวงที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญตาขวาง
จ้องอยู่นานเสียจนแดเนียลบ่นงืมๆงัมๆออกมาว่าจะหวงอะไรนักหนา
ก็จริง
ในวอนนาวันใครเขาก็รู้ ว่าคิมแจฮวานน่ะแตะไม่ได้หรอก
ร่างเล็กหัวเราะเบาๆ
กับท่าทางเป็นลูกหมาป่าหวงของของพี่ชายร่วมวง มือเรียวยกขึ้นแตะข้างแก้มเนียน
อมยิ้ม ก่อนเอ่ยบอกกับอีกฝ่าย
“พี่ไม่ต้องหวงผมขนาดนั้นก็ได้หน่า”
“ไม่หวงได้ไง
อัลฟ่าในงานนี้มีเยอะแยะ ไม่ได้มีแค่พี่ซักหน่อยนะแจฮวาน”
อัลฟ่าในวงก็มีแค่สี่คนพี่แกยังหวงขนาดนี้
แจฮวานไม่อยากจะคิดตอนขึ้นเวที จะขนาดไหนกันเชียว
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
“..เฮ้อ..”
“ผมเป็นของพี่นี่นา”
แผลเป็นที่หลังตอกย้ำเขาอยู่ทุกวัน
*
*
*
การใส่ปลอกคอเดินไปเดินมาในสถานที่คนพลุกพล่าน
ก็เหมือนการห้อยป้ายบอกชาวบ้าน ว่าเป็นโอเมก้า
ฮวังมินฮยอนได้ยินแฟนบอยข้างล่างคุยกันตอนช่วงก่อนเริ่มแสดงเพียงไม่กี่วินาที
ดูท่า การที่คิมแจฮวานเป็นโอเมก้าจะเป็นเรื่องฮือฮาของคืนนี้
ลำพังแค่ใส่โชคเกอร์
คนอื่นอาจจะคิดแค่ว่าเสียงหลักของวงใส่เพื่อให้เขากับเสื้อผ้าในการแสดงคืนนี้
แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ
ลอยมาตามลมก็ทำให้ชาวบ้านรู้ได้ว่าในวงมีโอเมก้าอีกคนนอกเหนือจากจำนวนที่รู้กันอยู่แล้ว
ลำพัง..
แค่ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักก็เป็นที่สนใจไปทั่วอยู่แล้ว ยิ่งพอมีกลิ่นหอมติดตัว
มีปลอกคอกันกัด (ถึงจะเส้นเล็ก) ติดคออยู่ อัลฟ่าในงาน
ทั้งชายทั้งหญิงก็ยิ่งสนใจในตัวอีกฝ่ายขึ้นมากเป็นเท่าตัว
อาทิตย์ก่อนมินฮยอนก็ถามแจฮวานแล้ว
ว่าแน่ใจใช่มั้ยว่าช่วงฮีทของตัวเองจะไม่มาในช่วงที่วงมีงานรัวๆแบบนี้
เจ้าลูกหมานั่นพยักหน้า ฉีกยิ้มตอบเขาอย่างมั่นใจเหลือเกินว่าช่วงฮีทของตัวเองมันอีกสามอาทิตย์
แต่เช้าวันนี้
กลิ่นหอมหวานคละคลุ้งไปทั่วหอ แจฮวานนอนขดตัวอยู่บนเตียงชั้นสอง ไลควานลิน
ลูกหมาป่าฝึกหัดเป็นคนเดินออกมาบอกมินฮยอนว่าเหมือนแจฮวานจะไม่สบาย
น้องยังไม่เข้าใจอาการฮีทนัก แต่แก้มแดงๆสองข้างของควานลินหลังจากที่มาบอกเขาว่าแจฮวานแปลกไป
ก็ทำให้มินฮยอนต้องกันทุกคนอัลฟ่าทุกคนในวงออกห่างจากแจฮวาน
ไม่เว้นแดเนียลเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก (เว้นตัวเขา-- ก็เขาเป็นอัลฟ่าของแจฮวานนี่)
ยาในกระเป๋าเป็นยาระงับอาการฮีทแบบไม่รุนแรงมากนัก
มันแค่เพียงบรรเทาอากาศร้อนรุ่มภายในเท่านั้น
แจฮวานโดนคุณหมอตักเตือนเรื่องการใช้ยา
เพราะเจ้าตัวใช้มันหนักในช่วงที่กำลังแข่งขัน ช่วงนี้จึงต้องลดลงบ้าง
เพราะเดี๋ยวร่างกายจะดื้อยาเอาเปล่าๆ
เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
จะไม่ไปงานเย็นวันนี้ก็ไม่ได้ แจฮวานเองก็ไม่อยากจะทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย
งานกาโยแดจอนวันนี้ คิมแจฮวานก็เลยต้องมาทั้งที่มีอาการฮีทอย่างช่วยไม่ได้
โชคเกอร์ที่คนใส่ควรจะเป็นฮวังมินฮยอนถูกยกให้แจฮวานใส่
ด้วยเหตุผลที่ว่าให้ใส่ปลอกคอกันกัดที่เป็นหนังสีน้ำตาลเส้นใหญ่ขึ้นเวทีคงจะดูไม่งาม
“ใจเย็นเพื่อน”
องซองอูกระซิบ
ตอนที่เห็นมินฮยอนมองเสียงหลักของวงตาไม่กะพริบ อีกไม่กี่นาทีงานจะเลิกแล้ว
กลิ่นหอมๆนั่นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ดูท่าว่ายาระงับของแจฮวานกำลังจะหมดฤทธิ์ อัลฟ่าหลายคนในงานเริ่มตามหาที่มาของกลิ่น
บางคนพบแล้ว เพราะโชคเกอร์ที่อีกคนใส่ไว้
และบางคนที่ว่าก็จ้องแจฮวานของเขาตาไม่กะพริบ
“เย็นห่าอะไรวะ
จะไม่ทนแล้วเนี่ย”
“หน่า--
งานจะเลิกแล้ว”
“สำหรับวันนี้
ขอบคุณมากค่า~”
เสียงเอ็มซีดังขึ้น
พร้อมๆกับพลุกระดาษที่ถูกปล่อยออกมาหลังจากงานจบ เพลงงานวันปีใหม่ดังขึ้น
หลายคนได้ไมค์ไปถือไว้สำหรับร้องเพลง
วอนนาวันก็มีพัคจีฮุนที่ปีนี้อายุยี่สิบเป็นคนถือไมค์ไว้
ฮวังมินฮยอนเร่งรีบปลีกตัวออกจาก
ตรงไปหาแจฮวานที่ยืนปรบมือไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาเหมือนช้าไปหนึ่งก้าว
ใครบางคนถึงตัวแจฮวานก่อน มือใหญ่นั่นวางลงบนเอวสอบ เจ้าลูกหมาตกใจสะดุ้งสุดตัว
อัลฟ่าคนนั้นก้มกระซิบลงข้างหู
ฝ่าบาทของวงเริ่มจะหงุดหงิด
เขากล่าวขอโทษคนที่ถูกเขาเดินชนจนเกือบปลิว
มินฮยอนไม่มีเวลาจะขอโทษอะไรมากความมากนัก ภาวนาให้อีกฝ่ายไม่โกรธมากแล้วกัน
เพราะเขากำลังรีบ สองเท้าเร่งความเร็วเข้าประชิดตัวโอเมก้าของเขา
“ขอโทษนะครับ”
และในที่สุด
เขาก็ถึงตัวแจฮวานจนได้
มินฮยอนคว้าเอวสอบมาชิดตัว
ดึงแจฮวานให้หลุดออกจากอ้อมกอดของอัลฟ่าที่ไม่คุ้นเคย
ก่อนเขาจะวาดยิ้มหวานอย่างที่ชอบทำ
หากประโยคที่เปล่งออกมาแสนจะไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ยุ่งกับของคนอื่นมันไม่มีมารยาทนะครับ”
*
*
*
บันไดหนีไฟเงียบไม่หยอก
เงียบเกินไปจนได้ยินเสียงหอบหายใจ
เสียงกระทบกันของเนื้อหนัง และเสียงชื้นแฉะลามก
ฟังแล้วพาลจะหน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆ
ความจริง มินฮยอนชอบเวลาแจฮวานใส่ปลอกคอ
ปลอกคอหนังสีน้ำตาลที่เมื่ออยู่บนลำคอขาวมันทำให้แจฮวานดูเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ
น่าทะนุถนอมเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
แต่พอเปลี่ยนมาใส่โชคเกอร์สีดำปักดิ้นทองนี่
มันเซ็กซี่เป็นบ้า
ไม่อยากทะนุถนอม อยากทำแรงๆ
ไม่ให้ไปน่ารักเรี่ยราดที่ไหนได้อีก
เขาก้มลงจุมพิตหลังคอขาว
ใช้ปากปลดโชคเกอร์เส้นเล็กนี่ทิ้งอย่างง่ายดาย
แลบลิ้นลิ้มรสหวานของโอเมก้าในอาณัติ
“อ๊ะ-- พี่มินฮยอน…”
ฝังเขี้ยวคมลงบนหลังคออย่างคุ้นเคย
แจฮวานร้องเสียงหลง ทั้งความเจ็บแสบจากรอยกัดที่ต้นคอ
ทั้งความอุ่นร้อนที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา
ใช้เวลาอยู่ซักพักพวกเขาถึงจะออกจากบันไดหนีไฟได้
เพราะมินฮยอนต้องทำความสะอาดเจ้าตัวเล็กให้เรียบร้อย
เขาเอาถอดเสื้อคลุมของแจฮวานออก ถือไว้ด้วยมือซ้าย
พร้อมกับกำโชคเกอร์เส้นบางของอีกฝ่ายไว้แน่น มือขวาโอบเอวสอบ
พาเดินพยุงออกจากบันไดหนีไฟไปยังห้องพักของวอนนาวัน
เราเดินสวนอัลฟ่าคนเดิมที่ทักแจฮวานบนเวที
ตาคมมองอีกฝ่าย คาดว่ากลิ่นหอมของโอเมก้าที่ฮีทเต็มที่คงทำให้หมอนั่นหันมาสนใจ
แต่ว่านะ ถึงกลิ่นหอมของแจฮวานจะฟุ้งไปไกลขนาดไหน
แต่กลิ่นนั้นก็เจือด้วยกลิ่นของอัลฟ่าจ่าฝูงซักคน
ที่ขนาดอัลฟ่าด้วยกันได้กลิ่นยังทำให้ไม่อยากเข้าใกล้
ไหนจะรอยเลือดที่เลอะปกเสื้อแจฮวานอีก
“ทิ้งนะ”
มินฮยอนว่า
ทิ้งโชคเกอร์เส้นเล็กลงถังขยะตอนที่เดินผ่าน
อาจจะดูโรคจิต แต่รอยเขี้ยวของเขาน่ะ
มันแสดงออกว่าแจฮวานมีเจ้าของชัดยิ่งกว่าปลอกคอบ้าๆนั่นเสียอีก
:)
*
*
*
#ฮลพด
180101
อย่าสาปน้อง….
เห็นแจฮวานใส่โชคเกอร์เมื่อวานแล้วคิสดีมั่ยดั้ยเรย ;--;
ฮือ ยังไม่หายเป็นโรคเขินเวลาเขียนเอ็นซี เอาไปแค่นี้ก็พอเด้อ ฮือ
ฝาก #ฮลพด
ในทวิตด้วยน้า ;--;
เจอกันเรื่องหน้าจ้า
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น