วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561

ใจกลางจักรวาล ep22 special

ใจกลางจักรวาล
special ep22
เรื่องคืนนั้น

เพื่อนของจักรวาลร้ายกาจ  โดยเฉพาะคนที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่ม หน้าตาดูใจดี แต่ที่จริงแล้วร้ายกาจมากมาย คนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของจักรวาล  ที่แนะนำตัวกับมนัสวินว่าชื่อเอ็มนั่นแหละ เห็นนะว่าผสมเหล้าในแก้วจักรวาลเข้มกว่าแก้วอื่น

            แต่ก็ต้องขอบคุณ เพราะจักรวาลตอนเมา--

            "อื้อ... พี่วิน พี่วินจ๋า"
            "ครับ"

            น้ำเมาเปลี่ยนพี่วานที่คนไม่ชอบออดอ้อน เป็นน้องวานไปอย่างกับหลังมือเป็นหน้ามือ ร่างเล็กบดเบียดทุกส่วนของร่างกายกับแฟนตัวสูง ตอนแรกก็นั่งข้างกันดีๆ ตอนนี้กลายเป็นจักรวาลมาเกยตักมนัสวินอยู่ได้ไงก็ไม่รู้  ร้อนถึงมนัสวินต้องจัดการร่างเล็กให้นั่งดีๆ ผลักใบหน้าจิ้มลิ้มออกจากซอกคอขาว ตอนที่เขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกดจูบลงมาเบาๆ แถมยังหายใจรดจนต้นคอ จนพาขนลุกชันไปทุกส่วนอีกต่างหาก

รู้ว่าวานไม่ใช่เด็กใสๆ แต่นี่มันต่อหน้าเพื่อนเลยนะ เขินหน่อยสิ!

วานพอแล้ว

เอ่ยปรามแฟนตัวเล็กที่กอดแขนเขาไว้แน่น คนน่ารัก(แต่มักไม่รู้ตัว)ยู่ปาก ย่นคิ้วพลางทำหน้าเอาแต่ใจ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนจักรวาลยังนั่งอยู่ตรงนี้ สาบานเลยว่ามนัสวินไม่ปล่อยให้จักรวาลยังงอแงแบบนี้แน่ๆ

พี่วินจูบเราหน่อยสิ นะๆๆ
วาน..
มึงก็ให้ๆมันไปเห๊อะ

อินทัชเปรยมาตามลม และคนอื่นที่นั่งอยู่ด้วยกันก็คงจะเห็นด้วย มนัสวินเหลือบมองหน้าเพื่อนร่วมห้องที่เมื่อก่อนก็ไม่ได้สนิทกันนัก แต่พอเป็นแฟนกับจักรวาล เราก็สนิทกันขึ้นซะงั้น

จักรวาลยังงอแงจะจูบให้ได้ เจ้าของอ้อมกอดที่เจ้าตัวซุกอยู่ก็เลยก้มลงไปประทับจูบเบาๆที่ริมฝีปาก ไม่ได้รุกล้ำอะไรมากมาย เพราะไม่อยากประเจิดประเจ่อต่อหน้าเพื่อนๆมากนัก ไม่นานก็ผละออก เจ้าแฮมสเตอร์ตัวน้อยยิ้มกว้างอย่างพอใจฮี่ซุกใบหน้ากับอกกว้างของมนัสวิน กอดรอบเอวสอบแน่นเหมือนว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมี

พี่วินตัวอุ่นจัง ชอบ ชอบ
มึงแม่งไม่ใสจริงๆด้วยว่ะวิน

อินทัชว่า ยกแก้วเหล้าดื่มพลางส่งยิ้มล้อเลียนให้คนที่ตนเคยคิดว่าเนิร์ด และอ่อนต่อโลก มนัสวินยิ้มแห้ง เขาก็ไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าตัวเองใสๆ ใส่แว่นเฉยๆ ก็ต้องคิดว่าเขาอ่อนต่อโลกด้วยหรือ

คิ..

แต่บางทีวินอาจจะอ่อนต่อโลกจริงๆก็ได้

วาน!

ร้องเสียงหลงตอนที่รู้สึกได้ว่ามือเล็กๆของจักรวาลล้วงเข้ามาในเสื้อยืดสีดำที่มนัสวินใส่อยู่ มือเย็บเชียบแตะบนหน้าท้องขาว ร้อนถึงคนตัวสูงที่ดึงมืออีกคนออกแทบไม่ทัน ไม่ต้องถามถึงสายตาของเพื่อนร่วมวงเหล้า พากันเสตามองทางอื่นกันโดยมิได้นัดหมาย ถึงจะจัญไรกันยกแก๊ง แต่ก็ใช่อยากจะเห็นหนังสดเพื่อนกับแฟนตรงนี้

ก็เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าจักรวาลเมา ไม่ร้องไห้งอแง ก็หื่นกามนี่แหละ

ที่ลวนลามมนัสวินอยู่ตรงนั้นคือจักรวาลจริงแท้แน่นอน

วานไม่เอา
งื้อ ทำไมอะ

จักรวาลปรื้อตามองแฟนตัวเองที่เอ่ยปราม มือใหญ่รวบมือเขาไว้ทั้งสองข้าง ทำหน้าดุใส่ผ่านแว่นเลนส์หนา แต่กระนั้นคนโดนดุก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร หน้ำซ้ำยังยิ้มหวานใส่อีกต่างหาก

พี่วินไม่อยากหรอ
“....”
พี่วินจ๋า
เราขอพาวานกลับหอก่อนนะ

เหล้าเข้าปากวันนี้หวยออกมาที่ได้จักรวาลร่างขี้ยั่ว มนัสวินก็แสนคิดถึงจักรวาลร่างที่เมาแล้วงอแงถึงคุณพ่อเหลือเกิน

พี่วินจ๋า
ครับ
จุ๊บๆหน่อยย

แต่บางทีก็คิดว่าร่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ

*
*
*

วาน-- วานครับ
ฮื่อ
ตื่นได้แล้ว ถึงแล้วนะ

เขย่าแขนคนที่เมาหลับคอพับอยู่ข้างเบาะคนขับ จักรวาลร้องฮื่อในลำคอ พลิกตัวไปมาเพราะถูกขัดใจเวลานอน มือใหญ่เกลี่ยแก้มใสด้วยอารมณ์เอ็นดู จักรวาลโหมดเด็กน้อยน่ารักจนมนัสวินอยากจะหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้ ปกติมีแต่วานร่างเด็กช่าง ตอนนี้ก็เด็กช่างเหมือนกัน

ช่างน่ารัก

วาน ขึ้นไปนอนดีๆบนห้องกัน
“....วิน

จักรวาลคว้ามือที่จับแก้มตนเอาไว้แน่น สองมือเล็กกุมมือซ้ายของมนัสวินไว้ ตาเรียวปรือมองแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ คลี่ยิ้มหวานเยิ้มเคลือบน้ำเมา ก่อนประโยคถัดมาจะทำเอาเส้นความอดทนของมนัสวินเกือบขาดผึง

จูบหน่อย
ก็จูบไปแล้ว--
เอาแบบที่พี่วินอยากทำอะ
“.....”
จูบเราหน่อย
           
ไม่ว่าเปล่า ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก

แบบที่อยากทำงั้นหรือ

อื้อ..

แว่นกรอบหนาที่ใส่มาทั้งวันถูกถอดออกโดยฝีมือคนร้องขอ หล่นหายไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด กำลังบดเบียดริมฝีปากบางกับอวัยวะเดียวกัน สองมือเล็กน่ารักประคองข้างแก้มแฟนตัวโต มือของจักรวาลไม่ได้นุ่มนิ่ม กลับกัน มันหยาบกร้านเพราะอีกคนเรียนวิชาช่างมา

หากถ้าเป็นจักรวาล

มนัสวินก็คิดว่าคงจะหวานไปทั้งตัวอยู่ดี

“..อืม

จักรวาลจูบเก่ง แต่มนัสวินเก่งกว่า มือหนึ่งกดท้ายทอยอีกคนให้เข้ามาใกล้ ดูดดึงริมฝีปาก ก็เข้าไปเชยชิมรสแอลกอฮอล์ที่เพิ่งดื่มมา โหยหา น่าจะนิยามทั้งสองคนได้ในเวลานี้ เพราะช่วงต้นปีมนัสวินอ่านหนังสือหนัก ประกอบกับต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย พอหลังจะสอบเสร็จ มีเวลาอยู่ด้วยกันยังไม่ทันหน้ำใจ จักรวาลก็ต้องกลับขอนแก่นไปหาครอบครัวอีก

จะเอาให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันเลย

เสียงดูดดึงน่าอายดังขึ้นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนองศา ฟังแล้วดูลามก จนคนที่ไม่เมาไร้สติแอบเขินจนหูแดง เขาผละริมฝีปากออกจากจักรวาล มองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ถึงแสงไฟจากข้างทางจะสาดเข้ามาได้ไม่มาก ก็ยังเห็นว่ามันแดงก้ำ

จนน่าฟัด

“..วิน--อย่ากัด

ลำคอขาวเป็นเป้าหมายถัดไป จุมพิตเบาบางตามด้วยการขบเม้มเบาๆ พอให้ขึ้นสีจางๆ น่าจะทำให้จักรวาลสร่างได้ไม่ยาก

ทำไมหอมจัง

คนตัวโตกว่าว่า สูดดมไปตามไรผม ต้นคอ ไปจนเกือบถึงหน้าอก

ในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงรูดซิปกางเกงยีนส์

อย่าซนสิ

กระซิบชิดหูคนตัวเล็กที่หัวเราะกวนประสาท จักรวาลล้วงมือเข้ามาในกางเกงเขา ผ่านชั้นในไปจนถึงสิ่งที่หลับสนิทอยู่ภายในและ-- บีบเบาๆ ดูท่าจะไปต่อกว่านี้แน่ หากเจ้าของเบาะคนขับ ไม่จับมือเล็กๆนั่นไว้ ละใบหน้าออกมาจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา

วาน
ทำไมง่า..
บนรถมันจะเลอะ
“....”
ขึ้นห้องกัน

*
*
*

มนัสวินรู้สึกว่ามันเร็วไป

เขาคบกับวานได้แค่เดือนกว่า แต่กระโดดมาถึงจุดที่จูบกันนัวเนียนบนรถขนาดนั้นแล้ว แถมเรายังอายุน้อยกันทั้งคู่-- จักรวาลเพิ่งอายุ18ด้วยซ้ำ อันที่จริง ถึงมนัสวินจะเคยจูบ แต่เขาไม่เคยทำอะไรกับผู้ชายเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้นะว่าจักรวาลเคยกับผู้ชายมั้ย (แต่กับผู้หญิงต้องเคยแน่ๆ) แต่เขาไม่เคยนี่นา

ร่างสูงยังคงนั่งอยู่บนรถ มองจักรวาลที่เดินขึ้นหอไปก่อน ยกสองมือลูบหน้าตอนที่ตอบไลน์ของม๊าเสร็จ หน้าร้อนฉ่าตอนนึกไปถึงข้อความที่ม๊าส่งมาว่าให้ป้องกันดีๆ

มือเอื้อมไปหยิบถุงยางกล่องสีฟ้าที่เก๊ะหน้ารถ เขามีติดรถไว้นานแล้วล่ะ ตั้งแต่ยังคุยกับคนเก่า ใส่กระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองที่พกมาเปลี่ยน  ก่อนจะเดินขึ้นหอของจักรวาล ตามคนตัวเล็กที่ล่วงหน้าไปก่อน

ไม่กะว่าจะได้ใช้หรอกนะ

แต่ปลอดภัยไว้ก่อนไง

มนัสวินเดินคิดเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้าห้องของแฟนตัวเล็กแล้ว

เขาหมุนลูกบิดเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคย สิ่งแรกที่เห็นก็คือจักรวาลทียืนหันหลังให้ กำลังถอดกางเกงยีนส์ของตัวเองออก เรียวขาขาวปรากฏสู่สายตา ดีที่จักรวางยังใส่บ๊อกเซอร์ไว้ แถมเสื้อยืดที่ใส่อยู่ก็ดูตัวใหญ่โคร่งปิดหน้าขาไว้อีกต่างหาก

แต่มนัสวินคิดว่านั่นมัน--

อ่า ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าลามก

เสียงปิดประตูพร้อมลงกลอนทำให้ร่างเล็กหันมามอง โยนกางเกงทิ้งไป และดูท่าชั้นในก็คงจะตามไปเร็วๆนี้

อึดอัด

รู้ทันทีว่าอึดอัดในที่นี้ จักรวาลหมายถึงอะไร

มือยันฟูกที่นอนไว้ข้าง ส่วนอีกข้างก็รั้งคนตัวเล็กกว่ามานั่งคร่อมตักเอาไว้ เราจูบกันอีกครั้ง มือเล็กๆนั่นขย้ำเส้นผมสีดำสนิทระบายอารมณ์วาบหวาม มนัสวินจูบเก่งเหมือนไฟ ละลายจักรวาลให้เหลวเหมือนขี้ผึ้งได้ง่ายๆ ยิ่งโดยเฉพาะมือที่ล้วงเข้ามาในบ๊อกเซอร์ของร่างเล็ก จับสิ่งที่ตื่นเต็มที่ตั้งแต่อยู่บนรถไว้เต็มมือ จักรวาลก็รู้สึกสร่างเหมือนตื่นเช้าใหม่ กัดปากเบาๆ ตอนที่มือร้อนนั้นเริ่มทำงาน สองแขนโอบรอบลำคอแกร่ง หลับตาลงเพราะทนสายตาของมนัสวินที่ปราศจากแว่นสายตาบดบังไม่ไหว

เร็วหน่อย--อื้อ แบบนั้น

ทำตามคำสั่งแฟนตัวเล็กอย่างว่าง่าย มนัสวินเร่งความเร็วมากขึ้น ขยับชักรูดตามความยาว เงยหน้าสูดกลิ่นหอมหวานจากแฟนตัวเล็กอีกครั้ง ไล่ริมฝีปากงับตั้งแต่ไหปลาร้าสวย ไปยังลำคอขาว และหยุดที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง

อืม..

ผ่อนจังหวะลงตามจังหวะจูบ มือซ้ายประคองสะโพกอิ่มให้นั่งอยู่บนตักไม่ร่วงไปไหน ส่วนมือขวาก็ยังทำหน้าที่ของมันได้ดีเสมอ ของเหลวเริ่มไหลออกมาจากส่วนน่ารัก เป็นสัญญาณว่าอีกคนกำลังจะเสร็จแล้ว

อะ เอามือออก--จะเสร็จแล้ว
ทำไมอะ
เดี๋ยวเลอะ--อื้อ..
ก็เสร็จคามือเรานี่แหละ
ฮะ..
จะเป็นไรไป

ปลดปล่อยความอุ่นร้อนออกมาเต็มฝ่ามือกว้าง จักรวาลหน้าแดงจัด ซุกหน้าลงกับลาดไหล่กว้าง บ่นงืมงัมว่าเจ้าตัวโตของตนไม่เชื่อฟังเอาเสียเลย รู้สึกสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง มนัสวินหัวเราะกับท่าทางน่ารักนั่น จูบข้างแก้มใสไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว ก่อนอุ้มจักรวาลลงจากตักด้วยมือเดียวเพราะมืออีกข้างเลอะอยู่

“..แล้วมึงอะ

คนที่นั่งอยู่บนเตียงมองร่างสูงที่ลุกขึ้นจากเตียงตาใส มนัสวินยิ้มบาง หยิบทิชชู่ที่ว่างอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของจักรวาลเช่นคราบเลอะออกจากมือตนเอง ก่อนเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นพร้อมเสื้อยืดในตู้มายื่นให้แฟนตัวเล็ก ไม่ลืมที่ยื่นทิชชู่ให้จักรวาลจัดการส่วนที่เลอะเทอะ

เราทำไมหรอมนัสวินถาม
เอ่อ หมายถึง ไม่ทำหรอ? ทำให้มั้ย ?”

จักรวาลคงรู้สึกได้ว่าคนที่ตัวเองนั่งต่างเบาะเมื่อครู่ก็คงอึดอัดไม่แพ้กัน สิ่งที่ดันสะโพกเขาเมื่อกี้ก็เป็นหลักฐานชั้นดีเลยทีเดียว

ก็ให้เขาเสร็จคนเดียวมันก็แปลกๆอยู่ ..

ไม่เป็นไร-- เราขออาบน้ำก่อนนะ

คนตัวสูงว่า หยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากระเป๋าสาวเท้าเข้ามาหาคนที่ยังนั่งหน้าแดงอยู่บนเตียง หอมกลุ่มผมสีเข้มไปฟอดใหญ่ ก่อนผละออกมาวาดยิ้มให้อีกคน

แต่ว่า--
เรากลัววานเจ็บ
สัส หมายถึงมือปะ ปากก็ได้--
คิดว่าเราจะพอใจหรอ
“....”

ไม่กล้า แต่ก็ใช่ว่าจะทนได้ถ้าเริ่มต้น

ขออาบน้ำก่อนนะ
“...อื้อ
ถ้าได้ยินเราเรียกก็ไม่ต้องขานนะ อาจจะอาบนานนิดนึง
“...”
คิดถึงหน้าวานอยู่

ร้าย--ร้ายกาจ

มนัสวินน้ำเปล่าอะไรล่ะ สุรา40ดีกรีชัดๆ!

*
*
*

มนัสวินเหมือนคนบ้าที่ยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง

สองขาก้าวขึ้นบันไดหอของจักรวาลอย่างไม่เร่งรีบหลังจากไปซื้อโจ๊กให้อีกคนในยามเช้า เด็กห้องกิฟท์กำลังคิดว่าเขาจะลงโทษอีกคนยังไงดีนะ โทษฐานที่มาวุ่นวายกับกระเป๋าของเขา จนไปพบถุงยางที่ยังไม่ได้ใช้

มนัสวินไม่ได้แกะถุงยางใช้

ไม่รู้สิ--อาจเป็นเพราะเห็นว่าแฟนตัวเล็กเหนื่อยจากการเดินทางจากขอนแก่นมากรุงเทพทั้งวัน อีกทั้งเขายังเขินจนลมออกหู ที่แสร้งทำเป็นพูดให้วานเขิน นี่จริงๆตัวเองก็เขินเหมือนกัน ก็คนมันไม่เคยทำกับผู้ชายนี่นา ไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง จักรวาลจะเจ็บมั้ย อันที่จริง ถามว่าจะยอมเป็นฝ่ายรับมั้ยจะดีกว่า

ถึงเวลาค่อยบังคับเอาแล้วกัน

มือเปิดประตูเข้าห้องไปพบกับร่างเล็กที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง จักรวาลดีดตัวลุกขึ้นยืน วิ่งดุ๊กๆ มาหาคนที่กลับมาจากการซื้ออาหารเช้ามาให้ รับโจ๊กจากมนัสวินไปถือไว้ ก่อนเดินไปแกะใส่ถ้วยให้

ช้านะ พ่อห้าสิบหก

ล้อไม่เลิก

ก็คนมันเยอะนี่นา

จักรวาลหันมากดยิ้มล้อเลียนขนาดบนกล่องสีฟ้าไม่เลิก มือเรียวแกะถุงโจ๊กเทใส่ถ้วยโดยมีมนัสวินยืนมองอยู่ข้างๆ รูดไล่โจ๊กออกจากถุงจนหมดทุกเม็ด และไม่ยอมจบประเด็นขนาดถุงยาง

ถึงหรอวะ กูจับเมื่อคืนไม่น่าถึง
“....ถึงหน่า
แน่ใจ ? ให้เต็มที่ห้าสิบสองอะ

ร่างเล็กหันมามองแฟนตัวสูง แกะโจ๊กถุงที่สอง พลางหัวเราะเบาๆ ตอนที่มนัสวินเงียบไป ดูท่าจะกำลังสงสัยว่าตกลงตนใส่ขนาดเท่าไหร่กันแน่ ก็เข้าใจน่ะนะ ว่าอาจจะไม่เคย ก็เลยกะไซส์ตัวเองไม่ถูก แต่คนเราก็ไม่ควรซื้อ--

เฮ้ย…”

หลุดอุทานเสียงเบาหวิวตอนที่สองแขนเอื้อมมาโอบรอบเอวนุ่มนิ่ม คนตัวสูงกว่ามาอยู่ด้านหลังตอนไหนไม่รู้ มนัสวินวางคางไว้บนลาดไหล่เล็ก เอียงใบหน้ามองแฟนตัวเอง เลื่อนจมูกไปชนกับลำคอขาว แอบดมกลิ่นสบู่ที่ยังติดอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนกระซิบชิดหูคนตัวเล็กจนพาลทำให้สีแดงกระจายอยู่ทั่วหน้า

ก็เมื่อคืนจับมันตอนยังไม่ตื่น
“.....”
เนี่ย-- เช้าๆนี่กำลังตื่นเลย
“....”
พิสูจน์มั้ยล่ะ ว่าเราใส่ห้าสิบหกจริงหรือเปล่า

โจ๊กสองถ้วยหมดในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือจักรวาลไม่พูดเรื่องขนาดถุงยางในกระเป๋าของแฟนอีกเลย เพราะอะไรน่ะหรอ อาจเป็นเพราะกางเกงนอนของจักรวาลเป็นบ๊อกเซอร์บางๆ ส่วนของมนัสวินก็เป็นกางเกงบอลผ้าลื่นที่บางไม่แพ้กัน แล้วยิ่งการที่อีกคนกอดเขาจากทางด้านหลังแบบนี้--

โอ๊ย ไม่พูดแล้วเว้ย !

หึ้ย !



----------

#จักรวิน
180122

คนที่บอกว่าเขินเวลาเขียนเอ็นซี มันวิ่งหนีไปนู่นแล้วค่ะท่านผู้ชม

สรุป56จริงมั้ยไม่รู้ ไม่กล้าฟันธง อัว 555555 แต่โปรดเอาฟิลเตอร์ 56ออกจากน้องวินเถอะค่ะ (แต่คาดว่าปล่อยตอนนี้ไป ทุกคนน่าจะมองน้องวินเปลี่ยนไปอีกแบบ)

เฮ้อ เขินอะ เขินเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือาหดสาฟหกวสดาฟวหกาดฟาด

เอาเป็นว่าเขิน ฮือ ฝาก #จักรวิน ในทวิตด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าในจอยค่า

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

hello omega ; minhwan

hello omega
minhyun x jaehwan







            ของที่วางนิ่งอย่างสงบอยู่บนโต๊ะคือปลอกคอผ้าสีดำปักดิ้นสีทองประดับให้ดูสวยงาม ข้างๆ ไม่ห่างจากปลอกคอนั่นเท่าไหร่ คือซองยาที่คุ้นเคยมาตลอดเกือบทั้งชีวิต


            ถึงใครๆจะบอกว่ามันโชคเกอร์ที่เขาใส่ไว้เป็นแฟชั่น แต่ในสายตาคิมแจฮวาน มองอย่างไรมันก็ไม่ต่างจากปลอกคอหนังสีน้ำตาลในกระเป๋าเขาซักนิด



            คิมแจฮวานถอนหายใจ มือเรียวหยิบโชคเกอร์อันนั้นขึ้นมาทาบลงบนลำคอขาวของตนเอง อ้อมปลายไปด้านหลังเพื่อสวมมัน นึกอยากจะมีตาหลัง จะได้สวมเจ้าสร้อยบ้าๆนี่ได้อย่างสะดวก หรือไม่ก็อยากให้มันมีที่รัดด้านหน้าเหมือนกับปลอกคอของเขา แต่จะให้ดี แจฮวานก็ไม่ได้อยากใส่มันเลย


            "อ้ะ.."


            ร่างเล็กอุทานเบาๆตอนที่มือเย็นเฉียบของใครบางคนแตะลงบนหลังมือของเขา ชิงเอาโชคเกอร์สีดำไปจากมือ ก่อนจัดการสวมให้เขาอย่างรวดเร็ว



            ตาเรียวมองฮวังมินฮยอนผ่านกระจกแต่งตัวบานใหญ่ พี่ชายร่วมวง ภาพลักษณ์ฝ่าบาทแสนใจดีกำลังยืนทำหน้าบูดอยู่ด้านหลังเขา อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจ ก่อนเงยหน้าสบตากับแจฮวานในกระจก



            "กินยาแล้วใช่มั้ย"

            "ครับ"




มินฮยอนถอนหายใจอีกแล้ว ไม่รู้ว่าจะถอนหายใจทำไมนักหนา มือใหญ่ที่วางอยู่บนบ่าเล็กนั่นออกแรงบีบเบาๆ แจฮวานรับรู้ได้ถึงความกังวลของอัลฟ่าด้านหลัง เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนที่มินฮยอนย่อตัวนั่งลงกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ฝังใบหน้าลงกับหลังคอเขา พร้อมส่ายหน้าไปมาอย่างออดอ้อน

หมาป่าจ่าฝูงอะไร่ล่ะ ลูกหมาชัดๆ

ไม่อยากให้เราใส่เลย
ไม่ใส่เดี๋ยวก็เป็นเรื่องสิครับ งานวันนี้ยิ่งคนเยอะอยู่ด้วย

ประโยคที่พูดออกมา พาลทำให้แจฮวานนึกไปถึงช่วงที่แข่ง produce101 ช่วงที่กำลังเตรียมแข่งรอบที่สองอยู่นั้น ตอนที่กำลังซ้อมเล่นกีตาร์อยู่ในห้องกับพี่มินฮยอนสองคน เขาผิดเองที่ประมาทไป กะวันฮีทของตัวเองผิดพลาด ไม่บอกคนอื่นในทีมโซนากีว่าเขาเป็นโอเมก้า แถมยังคอเปลือยเปล่าอยู่กับอัลฟ่าสองตนสองในห้องซ้อมแคบๆอีก

ความเจ็บปวดจากคมเขี้ยวอัลฟ่าหนุ่ม แจฮวานยังจำได้

นับว่ายังโชคดี ที่คืนนั้นเป็นฮวังมินฮยอน

ถึงจะกินยาเข้าไปแล้ว แต่กลิ่นหอมของโอเมก้าก็ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว มันยังคงเรียกความสนใจจากอัลฟ่าคนอื่นที่เดินผ่านไปมาได้อยู่ดี แจฮวานเห็นมินฮยอนหันไปมองคังแดเนียล อัลฟ่าอีกคนในวงที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญตาขวาง จ้องอยู่นานเสียจนแดเนียลบ่นงืมๆงัมๆออกมาว่าจะหวงอะไรนักหนา

ก็จริง ในวอนนาวันใครเขาก็รู้ ว่าคิมแจฮวานน่ะแตะไม่ได้หรอก

ร่างเล็กหัวเราะเบาๆ กับท่าทางเป็นลูกหมาป่าหวงของของพี่ชายร่วมวง มือเรียวยกขึ้นแตะข้างแก้มเนียน อมยิ้ม ก่อนเอ่ยบอกกับอีกฝ่าย

พี่ไม่ต้องหวงผมขนาดนั้นก็ได้หน่า
ไม่หวงได้ไง อัลฟ่าในงานนี้มีเยอะแยะ ไม่ได้มีแค่พี่ซักหน่อยนะแจฮวาน

อัลฟ่าในวงก็มีแค่สี่คนพี่แกยังหวงขนาดนี้ แจฮวานไม่อยากจะคิดตอนขึ้นเวที จะขนาดไหนกันเชียว

ไม่ต้องห่วงหรอกครับ
“..เฮ้อ..
ผมเป็นของพี่นี่นา

แผลเป็นที่หลังตอกย้ำเขาอยู่ทุกวัน

*
*
*

การใส่ปลอกคอเดินไปเดินมาในสถานที่คนพลุกพล่าน ก็เหมือนการห้อยป้ายบอกชาวบ้าน ว่าเป็นโอเมก้า

ฮวังมินฮยอนได้ยินแฟนบอยข้างล่างคุยกันตอนช่วงก่อนเริ่มแสดงเพียงไม่กี่วินาที ดูท่า การที่คิมแจฮวานเป็นโอเมก้าจะเป็นเรื่องฮือฮาของคืนนี้

ลำพังแค่ใส่โชคเกอร์ คนอื่นอาจจะคิดแค่ว่าเสียงหลักของวงใส่เพื่อให้เขากับเสื้อผ้าในการแสดงคืนนี้ แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาตามลมก็ทำให้ชาวบ้านรู้ได้ว่าในวงมีโอเมก้าอีกคนนอกเหนือจากจำนวนที่รู้กันอยู่แล้ว

ลำพัง.. แค่ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักก็เป็นที่สนใจไปทั่วอยู่แล้ว ยิ่งพอมีกลิ่นหอมติดตัว มีปลอกคอกันกัด (ถึงจะเส้นเล็ก) ติดคออยู่ อัลฟ่าในงาน ทั้งชายทั้งหญิงก็ยิ่งสนใจในตัวอีกฝ่ายขึ้นมากเป็นเท่าตัว

อาทิตย์ก่อนมินฮยอนก็ถามแจฮวานแล้ว ว่าแน่ใจใช่มั้ยว่าช่วงฮีทของตัวเองจะไม่มาในช่วงที่วงมีงานรัวๆแบบนี้ เจ้าลูกหมานั่นพยักหน้า ฉีกยิ้มตอบเขาอย่างมั่นใจเหลือเกินว่าช่วงฮีทของตัวเองมันอีกสามอาทิตย์

แต่เช้าวันนี้ กลิ่นหอมหวานคละคลุ้งไปทั่วหอ แจฮวานนอนขดตัวอยู่บนเตียงชั้นสอง ไลควานลิน ลูกหมาป่าฝึกหัดเป็นคนเดินออกมาบอกมินฮยอนว่าเหมือนแจฮวานจะไม่สบาย น้องยังไม่เข้าใจอาการฮีทนัก แต่แก้มแดงๆสองข้างของควานลินหลังจากที่มาบอกเขาว่าแจฮวานแปลกไป ก็ทำให้มินฮยอนต้องกันทุกคนอัลฟ่าทุกคนในวงออกห่างจากแจฮวาน ไม่เว้นแดเนียลเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก (เว้นตัวเขา-- ก็เขาเป็นอัลฟ่าของแจฮวานนี่)

ยาในกระเป๋าเป็นยาระงับอาการฮีทแบบไม่รุนแรงมากนัก มันแค่เพียงบรรเทาอากาศร้อนรุ่มภายในเท่านั้น แจฮวานโดนคุณหมอตักเตือนเรื่องการใช้ยา เพราะเจ้าตัวใช้มันหนักในช่วงที่กำลังแข่งขัน ช่วงนี้จึงต้องลดลงบ้าง เพราะเดี๋ยวร่างกายจะดื้อยาเอาเปล่าๆ

เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว จะไม่ไปงานเย็นวันนี้ก็ไม่ได้ แจฮวานเองก็ไม่อยากจะทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย งานกาโยแดจอนวันนี้ คิมแจฮวานก็เลยต้องมาทั้งที่มีอาการฮีทอย่างช่วยไม่ได้

โชคเกอร์ที่คนใส่ควรจะเป็นฮวังมินฮยอนถูกยกให้แจฮวานใส่ ด้วยเหตุผลที่ว่าให้ใส่ปลอกคอกันกัดที่เป็นหนังสีน้ำตาลเส้นใหญ่ขึ้นเวทีคงจะดูไม่งาม

ใจเย็นเพื่อน

องซองอูกระซิบ ตอนที่เห็นมินฮยอนมองเสียงหลักของวงตาไม่กะพริบ อีกไม่กี่นาทีงานจะเลิกแล้ว กลิ่นหอมๆนั่นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าว่ายาระงับของแจฮวานกำลังจะหมดฤทธิ์ อัลฟ่าหลายคนในงานเริ่มตามหาที่มาของกลิ่น บางคนพบแล้ว เพราะโชคเกอร์ที่อีกคนใส่ไว้ และบางคนที่ว่าก็จ้องแจฮวานของเขาตาไม่กะพริบ

เย็นห่าอะไรวะ จะไม่ทนแล้วเนี่ย
หน่า-- งานจะเลิกแล้ว
สำหรับวันนี้ ขอบคุณมากค่า~”

เสียงเอ็มซีดังขึ้น พร้อมๆกับพลุกระดาษที่ถูกปล่อยออกมาหลังจากงานจบ เพลงงานวันปีใหม่ดังขึ้น หลายคนได้ไมค์ไปถือไว้สำหรับร้องเพลง วอนนาวันก็มีพัคจีฮุนที่ปีนี้อายุยี่สิบเป็นคนถือไมค์ไว้

ฮวังมินฮยอนเร่งรีบปลีกตัวออกจาก ตรงไปหาแจฮวานที่ยืนปรบมือไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาเหมือนช้าไปหนึ่งก้าว ใครบางคนถึงตัวแจฮวานก่อน มือใหญ่นั่นวางลงบนเอวสอบ เจ้าลูกหมาตกใจสะดุ้งสุดตัว อัลฟ่าคนนั้นก้มกระซิบลงข้างหู

ฝ่าบาทของวงเริ่มจะหงุดหงิด เขากล่าวขอโทษคนที่ถูกเขาเดินชนจนเกือบปลิว มินฮยอนไม่มีเวลาจะขอโทษอะไรมากความมากนัก ภาวนาให้อีกฝ่ายไม่โกรธมากแล้วกัน เพราะเขากำลังรีบ สองเท้าเร่งความเร็วเข้าประชิดตัวโอเมก้าของเขา

ขอโทษนะครับ

และในที่สุด เขาก็ถึงตัวแจฮวานจนได้

มินฮยอนคว้าเอวสอบมาชิดตัว ดึงแจฮวานให้หลุดออกจากอ้อมกอดของอัลฟ่าที่ไม่คุ้นเคย ก่อนเขาจะวาดยิ้มหวานอย่างที่ชอบทำ หากประโยคที่เปล่งออกมาแสนจะไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ยุ่งกับของคนอื่นมันไม่มีมารยาทนะครับ

*
*
*

            บันไดหนีไฟเงียบไม่หยอก

            เงียบเกินไปจนได้ยินเสียงหอบหายใจ เสียงกระทบกันของเนื้อหนัง และเสียงชื้นแฉะลามก ฟังแล้วพาลจะหน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆ

            ความจริง มินฮยอนชอบเวลาแจฮวานใส่ปลอกคอ

            ปลอกคอหนังสีน้ำตาลที่เมื่ออยู่บนลำคอขาวมันทำให้แจฮวานดูเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ น่าทะนุถนอมเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง

            แต่พอเปลี่ยนมาใส่โชคเกอร์สีดำปักดิ้นทองนี่

            มันเซ็กซี่เป็นบ้า

            ไม่อยากทะนุถนอม อยากทำแรงๆ ไม่ให้ไปน่ารักเรี่ยราดที่ไหนได้อีก

เขาก้มลงจุมพิตหลังคอขาว ใช้ปากปลดโชคเกอร์เส้นเล็กนี่ทิ้งอย่างง่ายดาย แลบลิ้นลิ้มรสหวานของโอเมก้าในอาณัติ

            “อ๊ะ-- พี่มินฮยอน…”

            ฝังเขี้ยวคมลงบนหลังคออย่างคุ้นเคย แจฮวานร้องเสียงหลง ทั้งความเจ็บแสบจากรอยกัดที่ต้นคอ ทั้งความอุ่นร้อนที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา

            ใช้เวลาอยู่ซักพักพวกเขาถึงจะออกจากบันไดหนีไฟได้ เพราะมินฮยอนต้องทำความสะอาดเจ้าตัวเล็กให้เรียบร้อย เขาเอาถอดเสื้อคลุมของแจฮวานออก ถือไว้ด้วยมือซ้าย พร้อมกับกำโชคเกอร์เส้นบางของอีกฝ่ายไว้แน่น มือขวาโอบเอวสอบ พาเดินพยุงออกจากบันไดหนีไฟไปยังห้องพักของวอนนาวัน

            เราเดินสวนอัลฟ่าคนเดิมที่ทักแจฮวานบนเวที ตาคมมองอีกฝ่าย คาดว่ากลิ่นหอมของโอเมก้าที่ฮีทเต็มที่คงทำให้หมอนั่นหันมาสนใจ แต่ว่านะ ถึงกลิ่นหอมของแจฮวานจะฟุ้งไปไกลขนาดไหน แต่กลิ่นนั้นก็เจือด้วยกลิ่นของอัลฟ่าจ่าฝูงซักคน ที่ขนาดอัลฟ่าด้วยกันได้กลิ่นยังทำให้ไม่อยากเข้าใกล้

            ไหนจะรอยเลือดที่เลอะปกเสื้อแจฮวานอีก

            “ทิ้งนะ

            มินฮยอนว่า ทิ้งโชคเกอร์เส้นเล็กลงถังขยะตอนที่เดินผ่าน

            อาจจะดูโรคจิต แต่รอยเขี้ยวของเขาน่ะ

            มันแสดงออกว่าแจฮวานมีเจ้าของชัดยิ่งกว่าปลอกคอบ้าๆนั่นเสียอีก :)

*
*
*

#ฮลพด
180101

อย่าสาปน้อง….

เห็นแจฮวานใส่โชคเกอร์เมื่อวานแล้วคิสดีมั่ยดั้ยเรย ;--;

ฮือ ยังไม่หายเป็นโรคเขินเวลาเขียนเอ็นซี เอาไปแค่นี้ก็พอเด้อ ฮือ

ฝาก #ฮลพด ในทวิตด้วยน้า ;--;

เจอกันเรื่องหน้าจ้า


           











ค้นหาบล็อกนี้